กระบะน้องใหม่ของวงการ MG Extender เปิดราคามาแล้วเริ่มเพียง 549,000 บาท
“NEW MG EXTENDER กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” เปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่ตลาดเมืองไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้า โดยมาพร้อมการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT Dynamic ซึ่งโดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์และมิติตัวถังขนาดใหญ่ สมรรถนะที่เหนือกว่า การควบคุมที่สมบูรณ์แบบ ระบบความปลอดภัยครบครัน และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกของโลกในรถกระบะ
โดยจะเปิดตัวต่อสาธารณชน อย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์เพื่อขายแห่งชาติ หรือ “Big Motor Sale 2019” ในระหว่างวันที่ 16-25 สิงหาคม ณ ไบเทค บางนา และที่โชว์รูมเอ็มจี ทั่วประเทศ
NEW MG EXTENDER เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าที่กำลังมองหารถสำหรับการใช้งานและใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว โดยจะทำตลาดในกลุ่มรถกระบะแบบตอนครึ่ง หรือ Giant Cab และแบบ 2 ตอน หรือ Double Cab ซึ่งถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ด้วยขนาดมิติตัวถังขนาดใหญ่จึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกและภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย
สมรรถนะที่โดดเด่นจากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรล เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 161 แรงม้า ซึ่งให้ทั้งการประหยัดน้ำมันและประหยัดค่าบำรุงรักษา นอกจากนี้ ยังให้ความสะดวกสบายและมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพถนนด้วยระบบช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน รวมทั้งยังเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถยนต์เอ็มจี”
“สำหรับ NEW MG EXTENDER มี 9 รุ่นย่อยครอบคลุมทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ระบบส่งกำลังแบบธรรมดาและแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD) และแบบ 4 ล้อ (4WD) ให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานได้อย่างลงตัว”
NEW MG EXTENDER แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบโมเดิร์นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอ็มจี พร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่โดยมีทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) ที่มีความยาวกระบะท้ายถึง 1,900 มิลลิเมตร ซึ่งยาวที่สุดในรถระดับเดียวกันจึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น และแบบ 4 ประตู (Double Cab) พร้อมช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ทำงานควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ในความเร็วต่ำ และให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน ในขณะที่ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ (Projector) พร้อม Daytime Running Lights บันไดข้าง และกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ขณะถอย ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ในรุ่น Giant Cab แบบยกสูง
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และเก็บเสียงดีเยี่ยมด้วยการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด การออกแบบภายในสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้โทนสีเข้มและเพิ่มความเรียบหรูด้วยวัสดุ ให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ โดยในรุ่น Double Cab ยังมาพร้อมเบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า เบาะหลังพับได้ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
NEW MG EXTENDER ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ และแบบธรรมดา 6 จังหวะ ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน โดยในรุ่น Double Cab จะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L
มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และเสริมความมั่นคงในการขับขี่ พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว
NEW MG EXTENDER มีให้เลือกทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ซึ่งมีทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD) และแบบ 4 ล้อ (4WD) ครอบคลุมทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม 5 สีให้เลือก คือ สีขาว Artic WHITE สีดำ BLACK Knight สีเงิน SILVER Metallic สีแดง Scarlet RED และสีเทา Metal Ash GREY
ราคาจำหน่ายทั้ง 9 รุ่นย่อย มีดังนี้