Mercedes-AMG Hybrids จะมีกำลังมากถึง 804 แรงม้า และรุ่นต่อไปอย่าง C63 จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 650 แรงม้า

นอกเหนือจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่แล้ว Mercedes-AMG ยังได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับระบบส่งกำลังไฮบริดสมรรถนะสูงที่กำลังพัฒนาอีกด้วย

ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันกำลังพัฒนาระบบส่งกำลังแบบไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 4 และ 8 สูบ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC + แบบแปรผันเต็มรูปแบบ

มอเตอร์ไฟฟ้าได้รับการพัฒนาโดย AMG โดยเฉพาะและมากับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง โดยอยู่ในตำแหน่งเกียร์สองจังหวะที่ปรับเปลี่ยนด้วยระบบไฟฟ้าและระบบล็อกเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า Electric Drive Unit (EDU) สามารถผลิตได้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า และแรงบิด 236 ปอนด์ฟุต (320 นิวตันเมตร) ในขณะที่กำลังส่งผ่านด้านหลังตามปกติ แถมมอเตอร์ยังสามารถถ่ายโอนกำลังไปยังล้อหน้าได้หากมีการลื่นไถลที่ด้านล้อหลังมากเกินไป

เช่นเดียวกับ Porsche Taycan ที่มีเกียร์สองสปีด หมายความว่ามอเตอร์ให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมจากการหยุดนิ่ง และเมื่อเข้าสู่ความเร็วประมาณ 140 กม./ชม. เกียร์ที่สองจะเปิดใช้งานเพื่อให้รถแล่นต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง

รุ่นที่ติดตั้งระบบส่งกำลังไฮบริดใหม่จากMercedes -AMG จะมีโหมด Electric, Comfort, Sport, Sport +, Race และ Individual แต่ละรุ่นยังมีระบบ AMG Dynamics ที่มีผลต่อระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์พร้อมระบบขับเคลื่อนทุกล้อ และระบบล็อกเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีการพักเบรคสี่ระดับที่แตกต่างกัน

ในรูปแบบเรือธงของมอเตอร์ไฟฟ้านี้จะถูกจับคู่กับเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร V8 คู่เทอร์โบ โดยจะเปิดตัวครั้งแรกใน Mercedes-AMG GT73 ซึ่ง V8 ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นเรือธงจะสามารถรองรับแรงบิดได้ถึง 804 แรงม้า และแรงบิด 738 ปอนด์ฟุต (1,000 นิวตันเมตร) ทำให้รุ่นต่างๆ สามารถทำความเร็วได้จาก 0 – 96 กม./ชม. ภายในเวลาไม่ถึง 3 วินาที

Mercedes-AMG ยังได้ยืนยันระบบส่งกำลังสำหรับ C 63 เจนเนอเรชั่นถัดไป ตามที่มีข่าวลือมานานว่ารถจะมีเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริด ระบบนี้จะรวม M139 2.0 ลิตร สี่สูบในปัจจุบันของบริษัทด้วย โดยติดตั้งตามแนวยาวและปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้กำลังมากกว่า 442 แรงม้า เมื่อใช้ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 201 แรงม้า ซีดานคันนี้จะมีกำลังเกือบ 650 แรงม้า

ที่มา : carscoops