เปิดตัว MINI Cooper S Paddy Hopkirk Edition รุ่นลิมิเต็ดสุดพิเศษ 192 แรงม้า
มินิ ประเทศไทย เอาใจแฟนมินิพันธุ์แท้และนักสะสมสายสปอร์ตด้วยการเปิดตัว MINI Cooper S Paddy Hopkirk Edition รุ่นลิมิเต็ดสุดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งมินิระดับตำนาน พร้อมให้แฟนๆ ชาวไทยได้ครอบครองในจำนวนจำกัดเพียง 37 คัน
เมื่อปี 1964 MINI Cooper S รุ่นคลาสสิกสามารถคว้าแชมป์รายการมอนติคาร์โล แรลลี่ มาครองได้เป็นครั้งแรก ก่อนก้าวสู่สถานะแชมป์สามสมัยในเวลาต่อมา โดยในสนามนี้ มีนักขับแรลลี่ชาวไอร์แลนด์เหนือวัย 30 ปี “แพดดี้” แพทริค ฮ็อปเคิร์ก อยู่หลังพวงมาลัย
และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ต มินิจึงภูมิใจเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษที่มาพร้อมรูปลักษณ์และอุปกรณ์แบบเฉพาะตัว โดยเริ่มจากเลข 37 หมายเลขประจำรถของฮ็อปเคิร์กซึ่งประทับอยู่บนประตูทั้งสองฝั่ง
MINI Paddy Hopkirk Edition โฉบเฉี่ยวในสไตล์เดียวกับรถคันเดิมของฮ็อปเคิร์ก ด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้วในลาย Cosmos Spoke สีดำที่โดดเด่นด้วยการเล่นสีดำวาวที่ล้อ พร้อมยาง runflat ขณะที่กรอบและซี่แนวนอนของกระจังหน้ามาในสีดำมันวาว เช่นเดียวกับซี่ตะแกรงของช่องดักอากาศด้านล่าง ช่องบริเวณกระโปรงหน้าด้ามจับประตู ฝาถังน้ำมัน ด้ามจับประตูหลัง โลโก้มินิทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และกรอบไฟหน้า-ไฟท้าย ขณะที่ตัวรถมาในสีแดง Chili Red ตัดกับหลังคาขาว แบบเดียวกับมินิรุ่นคลาสสิกของฮ็อปเคิร์ก
นอกจากไฟหน้าแบบ LED และไฟท้ายลายธงยูเนียน แจ็คในแบบฉบับของมินิแล้ว มินิ Paddy Hopkirk Edition ยังแตกต่างด้วยสติ๊กเกอร์ลายอักษร “Paddy Hopkirk Monte Carlo” และแถบสีขาวที่คาดอยู่บนกระโปรงหน้ารถฝั่งคนขับที่ประดับด้วยลายเซ็นของแพดดี้ ฮ็อปเคิร์ก พร้อมด้วยเลขทะเบียน “33EJB” ของมินิคันแชมป์ปี 1964 ที่ปรากฏอยู่ในแถบขาวด้วยลายกราฟฟิกแบบสามมิติ ขณะที่บริเวณประตูท้ายก็ตกแต่งด้วยลายเซ็นของนักขับชาวไอร์แลนด์เหนือด้วย
ภายในห้องโดยสารยังมีลายเซ็นของฮ็อปเคิร์กประดับอยู่ที่แผงคอนโซลหน้ารถฝั่งผู้โดยสาร กลมกลืนเข้ากับวัสดุผิวหน้าแบบ Piano Black high gloss อย่างลงตัว ส่วนกาบบันไดที่พื้นห้องโดยสารทั้งสองข้าง ยังเตะตาด้วยป้าย LED ที่ระบุชื่อ “Paddy Hopkirk” เช่นกัน มินิ Paddy Hopkirk Edition ยังมาพร้อมกับชุดแต่ง MINI Excitement และ Comfort Access รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่างไฟหน้าสำรองในกรอบสีดำ Piano Black กุญแจรถที่ประทับด้วยหมายเลข 37 และแถบสีดำ Piano Black ที่ลากตัดระหว่างตัวถังรถกับกระจกหน้า ข้าง และหลังรอบด้าน
MINI Paddy Hopkirk Edition ใช้ขุมพลังเบนซิน 4 สูบตัวเดียวกับ MINI Cooper S 3 ประตู ซึ่งให้กำลังได้สูงสุด 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที ทำงานประสานกับระบบเกียร์ Manual Transmission ให้ตัวรถพุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 6.7 วินาที พร้อมมีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายแบบครบครัน
MINI Paddy Hopkirk Edition พร้อมให้แฟน ๆ มินิจับจองเป็นเจ้าของกันได้ในมหกรรมมอเตอร์โชว์ ในจำนวนจำกัดเพียง 37 คัน เท่ากับหมายเลขข้างรถคันประวัติศาสตร์ของแพดดี้ ฮ็อปเคิร์ก และเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของรถยนต์รุ่นพิเศษคันนี้ ลูกค้าสามารถสั่งจองได้ในราคาพิเศษเฉพาะช่วงมอเตอร์โชว์และมีกำหนดรับมอบรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 ในราคาเพียง 2,555,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)