สาวกสองล้อเตรียมควักกระเป๋า เพราะ CF Moto เตรียมเปิดให้จองรถในประเทศไทยเร็วๆ นี้

หลังจากที่ทางค่ายรถมอเตอร์ไซค์ CF Moto ได้สร้างเซอร์ไพร์สโดยการเปิดตัวรถในงาน Motor Show 2018 ที่ผ่านมาช่วงต้นปี ซึ่งในงานนั้นจะเป็นการเปิดราคาและสเปกของตัวรถ แต่ยังไม่ได้เปิดรับจองแต่อย่างใด ซึ่งตัวรถที่ทางค่ายเองนั้นนำมาทำตลาดเป็นกลุ่มแรกในประเทศไทยเราจะมีดังต่อไปนี้

NK250 ราคา 87,500 บาท และ NK250 ABS ราคา 95,000 บาท

โดยทาง CF Moto นั้นได้เลือกใช้เครื่องยนต์ของหลากหลายแบรนด์ดังอย่าง KTM และได้ทำการพัฒนาเครื่องยนต์เป็นของตัวเองในคลาส 400 – 800 ซีซี โดยเจ้า NK250 โมเดลชิมลางในการรุกตลาดในครั้งนี้ก็เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่อยู่ใน KTM Duke 250 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 249 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ DOHC จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด EFI แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Boschในเรื่องพละกำลังของเจ้า NK250 คันนี้ ยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยมา แต่น่าจะมีความใกล้เคียงกับ KTM Duke 250 ที่เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน โดยการเปรียบเทียบของน้ำหนักตัวรถที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกันของ Duke 250 ที่ 139 กิโลกรัม กับเจ้า NK250 ที่ 144 กิโลกรัม เจ้า NK250 คันนี้น่าจะสามารถสร้างแรงม้าสูงสุดได้ 31 แรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 24 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที

NK400 ราคา 149,000 บาท

อีกหนึ่งรถเนกเกตจากทางค่ายที่จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 400 ซีซี 2 สูบ ให้แรงม้า 41 แรงม้า แรงบิด 35 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเป็นรถในคลาสกลางที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยระบบดิสก์เบรกหน้าคู่ และดีไซน์ที่ทันสมัย

 

NK650 ราคา 185,000 บาท

650MT ราคา 188,000 บาท

เครื่องยนต์ขนาด 649.3cc 2สูบ เรียง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับ Kawasaki ในตระกูล 650cc อย่างเช่น ER-6N, Ninja 650 ฯลฯ ให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 56 BHP ที่ 9,500 รอบ และทอร์คหรือว่าแรงบิดนั้นเท่ากับ 62 NM ที่ 7,000 รอบ ตัวเครื่องนั้นระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ DOHC 8 วาล์ว แครงก์ชาร์ฟทวางองศาที่ 180 จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด EFI จุดระเบิดด้วยกล่อง ECU อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 11.3:1 ขนาดกระบอกสูบอยู่ที่ 83 mm และระยะช่วงชักอยู่ที่ 60 mm ดูจากตรงนี้แล้วถือว่าสอบผ่านสบายๆ สำหรับรถในระดับมิดเดิลคลาสอย่างนี้ที่เน้นแรงบิดในช่วงรอบต้นถึงกลางเป็นหลัก มาในสองแนวคือแนวสปอร์ตเนกเกตและแนวทัวร์ริ่ง

ซึ่งทั้งหมดนี้เตรียมเปิดให้จองกันในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ หรืออย่างช้าก็น่าจะไม่เกินเดือนกรกฎาคม นั่นเท่ากับว่าอีกเพียงไม่ถึงเดือนนั้นคนที่สนใจก็อาจจะได้สัมผัสตัวรถกันแบบเป็นๆ แล้ว