คาดว่าเป็นรถยันต์ที่ทรงพลังที่สุด ที่มาเปิดตัวใน Pebble Beach ซึ่งล่าสุดทางค่ายก็ได้เปิดตัว Model ที่จะเข้าสู่สายการผลิตแล้ว ซึ่งมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ แต่มีบางส่วนที่เล็กน้อยเท่านั้นที่แชร์กับ Chiron

ซึ่งคันนี้ทางค่ายเน้นปรับเปลี่ยนรูปทรงภายนอก เน้นการปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ ซึ่ง Bugatti ได้กล่าวไว้ว่า การปรับเปลี่ยนดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงกดดันเพิ่มเติม 90 กก. (198 ปอนด์)

Divo ได้รับการติดตั้งกระจังหน้าใหม่ ที่มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ และสปอยเลอร์หน้าที่กว้างขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยปรับปรุงการลดแรงกดและการระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักออกแบบได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับหลังคาและสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้เป็นช่องอากาศ พร้อมกับฝาครอบเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยให้มั่นใจได้ว่าอากาศจะสามารถถ่ายเทได้ในปริมาณที่สูงมาก เพื่อระบายความร้อนเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร

ใช่ รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ทรงพลัง W16 ขนาด 8 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ ซึ่งผลิตกำลังได้ถึง 1,500 แรงม้า (1,103 กิโลวัตต์ / 1,479 แรงม้า) Bugatti กล่าวว่า Divo จะไม่มีโหมดความเร็วสูงสุดและจะ จำกัด อยู่ที่ 380 กม. / ชม. (236 ไมล์ต่อชั่วโมง)

การปรับปรุงแก้ไขยังไม่สิ้นสุดเท่านี้ เพราะวิศวกร ยังได้แก้ไขในส่วนของระบบช่วงล่าง และพวงมาลัย และแก้ไขในส่วนของน้ำหนักบนตัวรถให้มีน้ำหนักน้อยกว่า Chiron 35 กิโลกรัม (77 ปอนด์) ด้วยล้อที่มีน้ำหนักเบา และใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สะส่วนใหญ่

ที่มาของชื่อสุดยอดไฮเปอร์คาร์คันนี้ Divo มาจากชื่อของสุดยอดนักแข่งรถชวรฝรั่งเศส อย่าง Albert Divo ทั้งนี้ทางค่ายจำกัดจำนวนการผลิตไว้ที่ 40 คันเท่านั้น และตั้งราคาไว้สูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ ที่ 5,800,000 เหรียญ หรือราว 188,000,000 บาท
ที่มา : Carscoops